วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

งานที่ 1 วิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบต่างๆ


1. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ ISDN (Integrated Services Digital Network)


ISDN เป็นบริการสื่อสารระบบดิจิตอลความเร็วสูงที่มีความเร็วตั้งแต่ 64 Kbps ถึง 2.048 Mbps สามารถรองรับการส่งสัญญาณเสียง ข้อมูล และภาพ โดยการนำมาประยุกต์ใช้งานกับอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, โทรศัพท์ดิจิตอล, ตู้สาขาอัตโนมัติ, อุปกรณ์สำหรับการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ, โทรศัพท์ภาพ, อุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย LAN (ISDN Router) โทรสารดิจิตอลและการใช้งานอุปกรณ์มัลติมีเดียในระบบดิจิตอลต่างๆ ฯลฯ
ประเภทของบริการ ISDN
1. บริการแบบ BAI (Basic Access Interface = 2B+D) บริการแบบนี้ ทศท. จะให้บริการโดยเดินสายตรงด้วยคู่สายทองแดงปกติ (สายทองแดง 2 เส้นเหมือนกับการให้บริการโทรศัพท์ระบบธรรมดา)
2. บริการแบบ PRI (Primary Rate Interface = 30 B+D) บริการแบบนี้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่สถาบันองค์กรหน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจที่ต้องการช่องสัญญาณสื่อสารจำนวนมาก ทศท. จะให้บริการโดยเดินคู่สายความเร็วระดับ 2.048 Mbps ให้แก่ผู้ใช้บริการ
หลักการพิจารณาในการเลือกที่จะใช้ ISDN
• ต้องการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตแบบ Dial-up
• ความเร็วอยู่ที่ 128 kbps
• เหมาะกับการใช้งานลักษณะ point to point เช่น การทำ Video conference กับเลขหมาย ISDN ใดก็สามารถหมุนได้เลย
ข้อดีของ ISDN
• ค่าใช้จ่ายต่ำ
• สะดวกในการใช้งานแบบ point to point
ข้อเสียของ ISDN
• พื้นที่ให้บริการจำกัด และไม่ขยายเพิ่มจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน
• ปัญหาสายไม่ว่าง สายหลุด
• ต้องขอสาย ISDN ใหม่
• ความเร็วทั่วไปจำกัดที่ 128K

2. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line)
เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงบนข่ายสายทองแดงหรือคู่สายโทรศัพท์ADSLเป็นเทคโนโลยีในตระกูล xDSL โดยมีลักษณะสำคัญ คือ อัตราการรับข้อมูล (Downstream) และอัตราการส่งข้อมูล (Upstream) ไม่เท่ากัน โดยมีอัตรารับข้อมูลสูงสุดที่ 8 Mbps. และอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 1Mbps
หลักการพิจารณาในการเลือกที่จะใช้ ADSL
• อยู่ในพื้นที่ที่ให้บริการ ระยะทางไม่เกิน 5 กม.
• มีหมายเลขโทรศัพท์ใช้งานอยู่แล้ว
• ต้องการรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง
• มีการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา
ข้อดีของ ADSL
• ADSL มีอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 1 Mbps. และ อัตราในการรับข้อมูลสูงสุดที่ 8 Mbps. ซึ่งสามารถปรับระดับความเร็วได้ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ ดังนั้น ADSL จึงสามารถรองรับ Application ในวันนี้และในอนาคต ได้เป็นอย่างดี
• การใช้งาน ADSL จะไม่จำเป็นต้องมีการหมุนโทรศัพท์ (Dial) เหมือน Analog Modem หรือ ISDN นั่นก็หมายความว่า การใช้งาน ADSL จะไม่มีปัญหาสายไม่ว่าง เนื่องจากคู่สายที่ผู้ให้บริการเตรียมไว้ไม่เพียงพอ ปัญหาสายหลุด นอกจากนั้น การเชื่อมต่อแต่ละครั้งก็ไม่เสียค่าโทรศัพท์อีกด้วย
• ระหว่างที่ใช้งาน ADSL รับ-ส่ง ข้อมูลอยู่ สายโทรศัพท์ก็ยังสามารถใช้คุยโทรศัพท์ หรือ รับ-ส่ง แฟกซ์ ได้เป็นเป็นปกติ ซึ่งแตกต่างจาก Analog Modem ซึ่งเมื่อใช้งาน โมเด็ม สายโทรศัพท์ก็ไม่สามารถใช้งานได้
ข้อเสียของ ADSL
• พื้นที่ให้บริการจำกัด แต่ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
• ส่วนใหญ่เสียค่าบริการรายเดือน แบบเหมาจ่าย
• ความเร็วขึ้นอยู่กับระยะทาง


3.การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบเคเบิลโมเด็ม (Cable Modem)
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง โดยไม่ใช้สายโทรศัพท์ แต่อาศัยเครือข่ายของผู้ให้บริการเคเบิลทีวีความเร็ว ของการใช้เคเบิลโมเด็มในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะทำให้ความเร็วสูงถึง 2/10 Mbps นั้น คือ ความเร็วในการอัพโหลด ที่ 2 Mbpsและความเร็วในการ ดาวน์โหลด ที่ 10 Mbps แต่ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่ที่ 64/256 Kbps
องค์ประกอบของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยเคเบิลโมเด็ม
1. ต้องมีการเดินสายเคเบิลจากผู้ให้บริการเคเบิล มาถึงบ้าน ซึ่งเป็นสายโคแอกเชียล (Coaxial )
2. ตัวแยกสัญญาณ (Splitter) ทำหน้าที่แยกสัญญาณคอมพิวเตอร์ผ่านเคเบิลโมเด็ม
3. Cable modem ทำหน้าที่แปลงสัญญาณ
4. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านเคเบิลโมเด็ม ในปัจจุบัน มีเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัทเอเชียลติมีเดีย ในเครือเดียวกับบริษัทเทเลคอมเอเชีย ผู้ให้บริการ Asia Net
ประโยชน์ของการใช้ระบบเคเบิลโมเด็ม
- สามารถเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันทีโดยไม่ต้องรอสัญญาณการเชื่อมต่อ
- มีความเร็วสูงกว่า 128 kbps

4.การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม (Satellite)
บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม (Satellite Internet) เป็นบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันใช้การส่งผ่านดาวเทียมแบบทางเดียว (One way) คือ จะมีการส่งสัญญาณมายังผู้ใช้ (download) ด้วยความเร็วสูงในระดับเมกะบิตต่อวินาทีแต่การส่งสัญญาณกลับไปหรือการอัพโหลด จะทำได้โดยผ่านโทรศัพท์แบบธรรมดา ซึ่งจะได้ความเร็วที่ 56 Kbps การใช้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมอาจได้รับการรบกวนจากสภาพอากาศได้ง่าย
องค์ประกอบของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยดาวเทียม
1. จานดาวเทียมขนาดเล็ก
2. อุปกรณ์รับสัญญาณจากดาวเทียมเพื่อแปลงเข้าสู่คอมพิวเตอร์
3. โมเด็มธรรมดา พร้อมสายโทรศัพท์ 1 คู่สาย เพื่อส่งสัญญาณกลับ (Upload)
4. ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ในปัจจุบันมีเพียงรายเดียว คือ CS Internet ในเครื่องชินคอร์ปอเรชั่น
5. IPSTAR รองรับการจัดสรรช่องสัญญาณที่ยืดหยุ่น และติดตั้งอย่างรวดเร็วในพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่ว ทั้งและในขณะเดียวกันก็ข้ามข้อจำกัดต่างๆของเครือข่ายภาคพื้นดิน โดยการใช้งาน IPSTAR Leased Line/Trucking เหมาะสมสำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ หรือใช้เป็นเครือข่ายสำรอง
การให้บริการ:
1. Mobile Trunkบริการ IPSTAR Mobile Trunk ขยายขีดความสามารถในการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ในพื้นที่ที่ไม่เครือข่ายภาคพื้นดินไปถึงหรือมีราคาแพง IPSTAR Mobile Trunk รองรับการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเช่นการใช้โทรศัพท์ในประเทศหรือโทรศัพท์ทางไกล ระบบพรีเพด / โพสเพด วอยส์เมลล์ และบริการนอน-วอยส์
2. Backup Linkการบริการในรูปแบบนี้ ได้รับการออกแบบสำหรับธุรกิจหรือองค์กร ที่ต้องการการเชื่อมต่อเครือข่าย ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ และระบบการรักษาความปลอดภัยสูง เช่นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ตลาดหลักทรัพย์ ธนาคาร ทหาร และรัฐวิสาหกิจ โดยจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ในเป็นเครือข่ายสำรอง หากระบบการเชื่อมต่อหลักประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติ สัญญาณรบกวนในสาย ปัญหาการเชื่อมต่อภาคพื้นดินหรือปัญหาของอุปกรณ์เครือข่าย รองรับการสำรองการเชื่อมต่อและจะโอนถ่ายข้อมูลผ่านดาวเทียม IPSTAR โดยอัตโนมัติ
ประโยชน์ที่ได้รับ:
สามารถกำหนดอัตราการรับส่งข้อมูลในแต่ละจุดได้ อุปกรณ์ปลายทางไอพีสตาร์ สามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ติดตั้งได้ง่าย หรือเปลี่ยนสถานที่ติดตั้งใหม่ได้อย่างรวดเร็ว สามารถจัดสรรช่องสัญญาณให้ใช้งานได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน (Bandwidth-on- Demand)
ข้อดีของเทคโนโลยีดาวเทียม
ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ เนื่องจาก IPSTAR สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ทั้งในย่านธุรกิจ ชุมชนเมือง หรือแม้เต่พื้นที่ห่างไกลที่สายโทรศัพท์เข้าไม่ถึง ในขณะที่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระบบอื่นๆ เช่น ADSL และ Cable Modem สามารถให้บริการได้เฉพาะพื้นที่เล็กๆ ในย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ เท่านั้น
• จานรับสัญญาณ ที่ใช้ ในการรับ-ส่งสัญญาณ มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ช่วยประหยัด พื้นที่ในการติดตั้ง โดยไม่จำเป็น ต้องใช้ สายโทรศัพท์
• มีการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต แบบตลอดเวลา (Always on) โดยที่ผู้ใช้ ไม่ต้องต่อสายโทรศัพท์ ทุกครั้ง เมื่อต้องการ ใช้อินเทอร์เน็ต
ข้อเสียของเทคโนโลยีดาวเทียม
• ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง
• ต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับกับเทคโนโลยีดาวเทียม
• การติดตั้งอุปกรณ์ค่อนข้างยุ่งยาก
• การใช้งานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ


5.การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบวงจรเช่า (Leased Line)
อินเทอร์เน็ตบนบริการวงจรเช่า หรือ บริการเส้นทางการสื่อสารส่วนตัว ผ่านใยแก้วนำแสงดิจิตอล ด้วยอัตราเร็วคงที่ สามารถรับส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และมีการเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลาระหว่าง Point to Point เป็นเทคโนโลยีที่มีความเสถียรและความปลอดภัยของข้อมูลสูง ซึ่งมีความเร็วให้เลือกตั้งแต่64 Kbps ถึง 2 Mbps และหากต้องการใช้บริการที่มีความเสถียรภาพเทียบเท่า Leased Line แต่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายที่มากกว่า 2 เครือข่ายหรือ Point to Multipoint Corporate Leased Line (อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบวงจรเช่า) คืออะไร
Leased Line เป็นเครือข่ายส่วนบุคคลให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับองค์กร หรือหน่วยงานที่ต้องการความเสถียร ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชม. และยังเลือกระดับความเร็วของการรับ-ส่งข้อมูลได้ตามความต้องการ ปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่งไม่มีจำกัดปริมาณ อีกทั้งพื้นที่ให้บริการยังครอบคลุมทั่วประเทศอีกด้วย ทำให้ได้รับความสะดวกในการบริหารข้อมูลขององค์กร, จัดการระบบในองค์กรได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพ และให้พนักงานสามารถเข้ามาทำงานเมื่ออยู่ภายนอกองค์กรได้ โดยเตรียมแค่โมเด็ม และอุปกรณ์ประเภท Access Server หรือ Terminal Server รองรับการส่งข้อมูลผ่านคู่สายโทรศัพท์ ทำให้บริหารงาน ได้แม้ติดต่องาน อยู่ภายนอก นี้เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของ Leased Line ที่เป็นบริการคุณภาพจาก CS Loxinfo นอกจากนี้ บริการ Leased Line ยังมีบริการเสริมที่ช่วยให้การบริหารจัดการระบบขององค์กร คุณสะดวกขึ้น ทั้งด้าน Security และ Managed Server เป็นต้น การบริการของ CSLoxinfo จะมีทีมงานมืออาชีพให้คำปรึกษา และขอแนะนำ กับองค์กรของคุณตลอดเวลา
ทำไมต้อง Corporate Leased Line
1.องค์กรหรือหน่วยงานต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีการเชื่อมต่อตลอดเวลา 24 ชม.
2.มีความต้องการใช้รับ-ส่งข้อมูลโดยไม่จำกัดปริมาณ
3.สามารถกำหนดความเร็วในการใช้งานในองค์กร หรือหน่วยงานได้ ประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรสูง
4.ต้องการควบคุมการใช้งานแบบ Server Domestics และแบบ Server International เครือข่ายครอบคลุมทั่วทั้งประเทศและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานไม่ต้องรอโทรศัพท์ในการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ต จึงสะดวกมากขึ้น
5.สามารถบริหาร Website และ Email ได้เอง สะดวกในการจัดการและควบคุมควบคุมรายจ่ายต่อเดือนได้ เพราะเป็นระบบที่จ่ายค่าบริการคงที่ทุกๆ เดือน และไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าโทรศัพท์อีกด้วยบริการเสริมที่ให้เลือกมากมาย เช่น Mail Backup, Managed Service, Anti-Spam เป็นต้น
Corporate Leased Line เหมาะสำหรับใครบ้าง
Corporate Leased Line เหมาะกับ บริษัท, หน่วยงานราชการ, หรือองค์กรต่าง ๆ ที่จำเป็นใช้ อินเทอร์เน็ต ที่มีคุณภาพสูงในการทำงาน สำคัญ เช่น
1. มีงานสำคัญที่ต้องอาศัยการรับส่งอีเมล์ เว็บ หรือรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
2. มีเซิร์ฟเวอร์ในองค์กรเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต เช่น เมล์หรือเว็บเซิร์ฟเวอร์
3. มีคอมพิวเตอร์จำนวนมากเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต
ข้อดี คือ เราจะมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์อยู่ในสถานที่เดียวกับเรา ทำให้จัดการได้ง่ายและเรายังสามารถใช้ประโยชน์จากสาย Leased Line เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในองค์กรของเรากับอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อเสีย คือ ต้องแบกรับภาระด้านเทคนิคในการจัดการดูแลอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่เชี่ยวชาญ

เว็บอ้างอิง
http://util.pbj.ac.th/ict4/docLearnM4.asp?unit=8
http://www.jthailand.com/
http://www.vcharkarn.com/
http://teacher.snru.ac.th/
http://www.sheepnetwork.com/

1 ความคิดเห็น:

  1. อ.โป้ง เข้ามาตรวจแล้วนะครับไปดูคะแนนได้ที่ห้องเรียนออนไลน์นะครับ

    ตอบลบ